CASE STUDY

Cosmetics Industry

เจาะกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ในการใช้ระบบ QR Code ป้องกันสินค้าปลอม และเก็บข้อมูล Big Data ของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในด้านการตลาด

ลูกค้าที่อนุญาตให้ Birth Note นำข้อมูลมาใช้ทำ Case Study ท่านนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอางแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ดำเนินการผลิตเครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นเซรั่มบำรุงผิวหน้า ครีมทาหน้า โฟมล้างหน้า มาสก์หน้า ฯลฯ  มีการทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค และผ่านตัวแทนตามจังหวัดต่าง ๆ โดยกิจการก็เหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งบริษัทฯ ประสบปัญหาเรื่องสินค้าถูกปลอมแปลงอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากฉลากและบรรจุภัณฑ์มีลวดลายที่ง่ายต่อการปลอมแปลง

คุณเอ (ชื่อสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้จึงคิดที่จะทำบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการปลอมแปลง โดยทำตัวหนังสือนูนที่ตัวกระปุกครีมเป็นรูปชื่อของแบรนด์เครื่องสำอาง  แต่การเปลี่ยนรูปแบบของบรรจุภัณฑ์นี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร เนื่องจากต้นทุนการผลิตกระปุกที่มีตัวอักษรนูนขึ้นมานั้นสูงเกินไป คุณเอเลยพิจารณาไม่ใช้วิธีนี้ในการต่อสู้กับสินค้าปลอมแปลง

จากนั้นไม่นาน คุณเอเห็นว่ามีสติ๊กเกอร์โฮโลแกรม (Hologram) ซึ่งเป็นสติ๊กเกอร์ 3 มิติ ติดลงบนบรรจุภัณฑ์โดยตรง ซึ่งสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมนั้นก็สามารถทำให้ผู้ซื้อสินค้าสามารถสังเกตความแตกต่างได้พอสมควร คุณเอก็เลยทดลองใช้วิธีนี้ในการป้องกันสินค้าปลอมแปลงเรื่อยมา 

ต่อมา บริษัทฯ พบว่ายอดขายของไตรมาสล่าสุดลดลงไปกว่า 40% คุณเอจึงเรียกหัวหน้าของแต่ละแผนกเข้าประชุมหารึอเพื่อ brainstorm ว่าปัญหาที่ทำให้ยอดขายตกนั้นคืออะไรแล้วต้องแก้ไขยังไง

หลังจากที่ประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว พบว่าสาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลงไปถึง 40% มาจากปัญหาหลัก ๆ ดังนี้

สาเหตุที่ทำให้ยอดขายลดลง

สินค้าถูกปลอมแปลง

เนื่องจากสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมที่สั่งให้โรงงานผลิตเพื่อแปะลงบนผลิตภัณฑ์นั้นถูกปลอมแปลงขึ้นมาจากผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้สติ๊กเกอร์โฮโลแกรมนั้นไม่สามารถป้องกันการปลอมแปลงสินค้าได้อีกต่อไป

ไม่สามารถอธิบายให้ลูกค้าสังเกตสินค้าของปลอม

ทางบริษัทฯ ไม่มีการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในเรื่องของการสังเกตว่าสินค้าตัวไหนเป็นสินค้าจริงหรือปลอม โดยเพียงคิดว่าการติดสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมแล้วลูกค้าจะเชื่อว่าเป็นสินค้าจริง

ผู้รับจ้างผลิต แอบผลิตสินค้าเกินจำนวน

ตามปกติแล้ว ทางบริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้โรงงานผลิตสินค้า ทำการผลิตตามออร์เดอร์ที่สั่งไว้ แต่ปรากฏว่าฝ่ายผลิตสินค้ามีการแอบผลิตเกินจำนวนที่สั่งไว้แล้วมีการแอบนำสินค้าไปปล่อยขายในช่องทางต่าง ๆ ล่าสุดได้พบว่ามีการผลิตสินค้าเกินถึง 5,000 ชิ้น ทำให้มีสินค้าในท้องตลาดมากเกินไป และมีการช่วงชิงส่วนแบ่งของยอดขายจริงจากบริษัทฯ ไปถึง 1.7 ล้านบาท

ทำการตลาดไม่ตรงจุด ไม่รู้ว่าลูกค้าจริง ๆ คือใคร

เนื่องจากบริษัทฯ ทำการตลาดโดยการโฆษณาผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค และจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนต่าง ๆ ทำให้บริษัทแทบจะไม่รู้เลยว่าลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปจริง ๆ แล้วคือใคร ช่วงอายุเท่าไหร่ อยู่พื้นที่ไหนบ้าง ทำให้บริษัทผลิตสินค้าแบบเดิม ๆ โดยไม่มีการคำนึงถึงความต้องการที่แท้จริงจากลูกค้า

ตัวแทนจำหน่ายขายตัดราคาและข้ามเขต

ทางบริษัทฯ ได้มีการจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนต่าง ๆ ในจังหวัดหลัก ๆ ของไทย ซึ่งมีการแบ่งเขตของการทำการตลาดโดยแบ่งตามพื้นที่ ต่อมาเพิ่งมีการค้นพบว่ามีการขายข้ามเขตเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือตัวแทนเขตนครราชสีมา ได้นำสินค้าไปขายในเขตอุดรธานีเนื่องจากมีญาติอยู่ที่นั่น ซึ่งในเขตอุดรธานีก็มีตัวแทนอยู่แล้ว ทำให้มีการแย่งชิงลูกค้าในเขตอุดรธานี และยิ่งไปกว่านั้นก็คือการขายตัดราคากันเอง ทำให้บริษัทฯ ต้องทำการเจรจากับทั้งสองฝ่ายให้อยู่ในกรอบที่ตั้งไว้

เมื่อทางทีมงานของเบิร์ธโน๊ตได้รับทราบปัญหาเหล่านี้จากคุณเอ จึงพัฒนาระบบ QR Code กันปลอมและระบบเก็บข้อมูลลูกค้า ที่สามารถแก้ไขปัญหาของบริษัทฯ ได้ทุกข้อและยังมีการเพิ่ม Feature บางอย่างทำให้ทั้งบริษัทฯ และลูกค้าของบริษัทฯ เองมีความสะดวกในการใช้งานเพิ่มขึ้น โดย Solution ที่เราพัฒนาขึ้นมาคือ

1. พิมพ์สติ๊กเกอร์ QR Code กันปลอม

สติ๊กเกอร์ QR Code กันปลอม เป็นสติ๊กเกอร์ที่ไม่เหมือนกันเลยสักดวง ผลิตมาโดยเฉพาะสำหรับสินค้าทุก ๆ ชิ้น โดย 1 ชิ้นจะมี 1 รหัสที่ไม่ซ้ำกัน เมื่อบริษัทฯ นำสติกเกอร์ QR Code ไปติดบนสินค้าแล้วก็ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งให้ลูกค้าทราบว่าสินค้าจริงต้องมีสติ๊กเกอร์ QR Code ตัวนี้เท่านั้น

2. ลูกค้าสามารถตรวจสอบสินค้าจริงหรือปลอมได้อย่างง่ายดาย

โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปแล้วสามารถตรวจเช็คสินค้าได้ด้วยมือถือสมาร์ทโฟน โดยขูดสติ๊กเกอร์แล้วสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบ เมื่อทำการสแกนซ้ำ ระบบจะแจ้งเตือนว่ามีการสแกนไปแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการนำ QR Code ตัวนี้ไปใช้ต่อเพื่อทำการปลอมแปลงสินค้าอีกต่อไป

3. ใช้ฟีเจอร์ชิงรางวัล (Lucky Draw)

โดยมีการจับรางวัลชิงมือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่และของรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าที่สแกนเข้ามาทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น เพศ อายุ ช่องทางที่ทำให้รู้จักสินค้า สถานที่ที่ซื้อสินค้ามา และทำแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้สินค้าและสิ่งที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม

4. ใช้ฟีเจอร์สะสมแต้ม (Loyalty Program)

โดยกำหนดให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้า 1 ชิ้นมีแต้มสะสมในจำนวนต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับชนิดและราคาของสินค้า เช่นครีมทาหน้ามี 10 แต้ม มาสก์หน้ามี 20 แต้ม ส่วนเซรั่มมี 30 แต้ม เมื่อสะสมครบ 100 แต้มก็จะสามารถแลกครีมทาผิวได้ 1 กระปุก เป็นต้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ได้ และยังทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าที่ได้ใช้สินค้าแบรนด์นี้

 

5. ใช้ระบบติดตามตัวแทน (Dealer Tracking)

ใช้ระบบติดตามตัวแทนเพื่อทำการ track ว่าสินค้าหรือกล่องบรรจุสินค้านั้น ๆ มาจากตัวแทนเจ้าไหน 

6. ทำการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ของลูกค้า

วิเคราะห์ข้อมูลโดยนำข้อมูลลูกค้าที่สแกน QR เข้ามาในระบบหลังบ้านมาต่อยอดทางการตลาดออนไลน์ หนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญคือการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ซื้อครีมทาหน้า แล้วนำข้อมูลส่วนนี้ไปยิงโฆษณาออนไลน์เกี่ยวกับเซรั่มซึ่งมีราคาสูงกว่าให้แก่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ พร้อมเสนอโปรโมชั่นต่าง ๆ

จากการทดลองใช้ระบบ QR Code ของเบิร์ธโน๊ต ปรากฏว่าปัญหาต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นได้ถูกแก้ไขและทำให้บริษัทฯ ได้ประโยชน์มากมายหลายด้านดังนี้

ผลที่ได้รับจากการใช้ระบบ QR Code ของเบิร์ธโน๊ต

ลดจำนวนสินค้าปลอมในท้องตลาด

เนื่องจาก QR Code ของเบิร์ธโน๊ตเป็นแบบ 1 ต่อ 1 ไม่สามารถปลอมแปลงได้ ทำให้คนที่ปลอมแปลงสินค้าไม่สามารถขายสินค้าที่เป็นของปลอมได้เหมือนเดิม ทำให้ยกเลิกการปลอมโดยปริยาย

ลูกค้าสังเกตสินค้าของจริงได้อย่างง่ายดาย

ด้วยสติ๊กเกอร์ QR Code ที่ไม่เหมือนใครและมีการออกแบบให้ตรงกับ CI ของแบรนด์ ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจที่จะซื้อสินค้าไปทดลองใช้ หรือถ้าเป็นลูกค้าเดิมก็มั่นใจได้ว่าสินค้าเป็นของจริงแน่นอน

โรงงานผู้รับจ้างผลิตสินค้าไม่สามารถที่จะนำสินค้าออกไปขายได้

เนื่องจากสติ๊กเกอร์ QR Code ของเบิร์ธโน๊ตนั้นมีจำนวนที่แน่นอน หากเกิดมีการผลิตเกินจำนวนที่สั่งไว้แล้วนำไปขายต่อ ก็ยังเป็นสินค้าปลอมอยู่ดี เนื่องจากไม่มีสติ๊กเกอร์ QR Code ของเบิร์ธโน๊ต

เก็บข้อมูลลูกค้าด้วยฟีเจอร์ชิงรางวัล (Lucky Draw) ของเบิร์ธโน๊ต

ฟีเจอร์ชิงรางวัลเป็นที่ดึงดูดให้ลูกค้าสแกน QR Code เข้ามาเพื่อชิงรางวัล โดยตอบคำถามต่าง ๆ ที่ทางบริษัทฯ ตั้งไว้ โดยลูกค้าที่สแกนเข้ามามีจำนวนกว่า 5,000 คน ใน 3 เดือนแรกที่วางขายสินค้าที่ติดสติ๊กเกอร์ QR Code ของเบิร์ธโน๊ต ทำให้บริษัทฯ สามารถนำข้อมูลจากกลุ่มลูกค้านี้ ไปเป็นข้อมูลตัวอย่างในการไปวิเคราะห์การตลาดได้

ต่อยอดทางการตลาดด้วยข้อมูล Big Data จากลูกค้า

เนื่องจากระบบของเบิร์ธโน๊ตนั้นสามารถระบุตำแหน่งของลูกค้าได้แม่นยำในระดับความผิดพลาดประมาณ 3 เมตร ทำให้ทางบริษัทฯ รู้ ตำแหน่งที่ตั้งที่แท้จริงของลูกค้า จึงสามารถรู้การกระจายของสินค้าแต่ละท้องที่ได้ ทำให้สามารถทำโปรโมชั่น และสื่อโฆษณาได้ถูกแบบเช่น ทำเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ (Brand Awareness), ทำเพื่อดึงลูกค้าใหม่, ทำเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและกระตุ้นการซื้อสินค้า ด้วย Solution เหล่านี้ บริษัทสามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่และยอดขายได้เป็นจำนวนมาก

แก้ปัญหาเรื่องการขายข้ามเขต

บริษัทฯ สามารถ track ตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ว่าตัวแทนเหล่านี้สั่งสินค้าชิ้นไหนไปบ้างและสถานที่ตั้งตรงกับที่ลูกค้าสแกนมาหรือไม่ ทำให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาเรื่องการขายข้ามเขตได้

เพิ่มตัวแทนจำหน่ายไปยังต่างประเทศได้สำเร็จ

บริษัทฯ พบว่ามีลูกค้าจำนวนหนึ่งสแกน QR Code เข้ามาจากเวียงจันทร์ สืบสาวราวเรื่องจนทราบว่ามีการหิ้วสินค้าไปขายที่เวียงจันทร์ ประเทศลาว โดยเน็ตไอดอลเจ้าหนึ่ง ทำให้บริษัทได้ทำการตัดสินใจเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่เวียงจันทร์ ทำให้ขยายฐานลูกค้าไปที่ประเทศลาวได้สำเร็จ

สรุปทั้งหมด

สินค้าปลอมเป็นสาเหตุให้รายได้ของบริษัทฯ ลดลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าเกิดความไม่มั่นใจในแบรนด์สินค้า เนื่องจากว่าซื้อสินค้าที่ปลอมแปลงไปแล้วไม่ได้สินค้าที่มีคุณภาพเหมือนของจริง หลังจากที่เบิร์ธโน๊ตได้แก้ปัญหาในส่วนนี้ได้ก็สามารถทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม นอกจากนั้นฝ่ายการตลาดยังได้ใช้ประโยชน์จาก Big Data ของลูกค้าในการต่อยอดทางการตลาด เช่นการยิงโฆษณาออนไลน์ไปยังกลุ่มลูกค้าโดยตรง การจัดกิจกรรมชิงโชคเพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกและกระตุ้นยอดขาย การสะสมแต้มแลกของรางวัลเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า การ cross-selling โดยการเสนอสินค้าชนิดอื่นที่อยู่ในแบรนด์ในราคาโปรโมชั่น เป็นต้น นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังสามารถ track ตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ว่าตัวแทนเหล่านี้สั่งสินค้าชิ้นไหนไปบ้างและสถานที่ตั้งตรงกับที่ลูกค้าสแกนมาหรือไม่

หากท่านสนใจปรึกษาทีมงานของเรา สามารถติดต่อ 099-564-5947, 096-142-9547 หรืออีเมล [email protected] เพื่อให้ทีมงานติดต่อกลับได้เลย 

Other Success Stories

เรื่องราวของความสำเร็จ

ติดต่อเรา เพื่อขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลลูกค้าและการเพิ่มยอดขาย

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.