6 วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า
การประมวลผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า สามารถนำมาปรับปรุงรายชื่ออีเมลลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ปรับปรุงการรักษาลูกค้าความสัมพันธ์ของลูกค้า และส่งเสริมแคมเปญการตลาดของคุณ วิธีที่ดีที่สุดในการรวบรวมข้อมูลลูกค้ามีดังนี้
1. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ (Website Analytics Tools)
เครื่องมือวิเคราะห์เว็บเช่น Google Analytics ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าของคุณได้ดีขึ้น รวมทั้งรวบรวมข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจเพื่อปรับปรุงการตลาดของคุณ คุณสามารถดูสิ่งที่สะท้อนกับผู้ชมเว็บไซต์ของคุณผ่านเมตริกบางอย่างเช่นจำนวนหน้าที่มีการเปิด (Pageviews) เวลาบนหน้าเว็บ (Time on Page) และอัตราตีกลับ (Bounce Rate)
ในการจัดหาทรัพยากร ข้อมูล และความบันเทิงให้กับผู้บริโภค คุณสามารถตรวจสอบได้ว่าคำหลักทั่วไปคำใดที่ทำให้เกิด Conversion มายังเว็บไซต์ของคุณ และอ้างอิงจากสื่อการตลาดโดยใช้เนื้อหา (Content Marketing)
2. แบบสำรวจออนไลน์ (Online Surveys)
การทำแบบสำรวจในระหว่างที่เสร็จสิ้นกระบวนการต่าง ๆ (เช่นการสมัครใช้งานอีเมล การซื้อสินค้า ฯลฯ ) เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแยกลูกค้าแต่ละคนเพื่อทำการวิเคราะห์ คุณสามารถเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้ในจำนวนมากเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้ (เช่นสถานภาพทางพลเมือง ความสนใจ รายได้ ฯลฯ ) วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของกลุ่มเป้าหมายและตัวตนของผู้ซื้อ (Buyer Persona)
การทำแบบสำรวจออนไลน์สามารถสร้างการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และสามารถติดตามผู้ตอบแบบสำรวจได้ง่าย เป็นวิธีที่ประหยัดในการเข้าถึงลูกค้าของคุณไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
3. แบบฟอร์มลงทะเบียน (Signup Forms)
การใช้แบบฟอร์มลงทะเบียน (Signup Form) หรือแบบฟอร์มโอกาสในการขาย (Lead Form) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของลูกค้า แบบฟอร์มเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณสร้างโอกาสในการขายเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูลที่รวบรวมได้จะเผยให้เห็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่มประชากรเป้าหมายของคุณ ซึ่งการได้มาซื่งลูกค้าจริงโดยใช้แบบฟอร์มการสมัครเป็นกลยุทธ์ที่เหล่านักการตลาดนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย
4. การสัมภาษณ์ลูกค้า (Customer Interviews)
การติดต่อโดยตรงและการสัมภาษณ์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเติมเต็มช่องว่างที่เหลือ โดยให้กรอกแบบฟอร์ม แบบสำรวจ หรือกล่องรับความคิดเห็น คุณสามารถสัมภาษณ์ลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ วิดีโอแชทออนไลน์ อีเมล หรือการประชุมแบบเห็นหน้า
การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เป็นวิธีการเข้าถึงลูกค้าที่มีต้นทุนต่ำและยังใช้เวลาน้อยอีกด้วย ในขณะเดียวกัน การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว เป็นการสื่อสารที่ไม่ใช่แค่การได้มาซึ่งคำพูดของลูกค้า คุณสามารถสังเกตความจริงใจและความถูกต้องของคำตอบของลูกค้า ผ่านคำตอบที่ไม่ได้ออกมาจากคำพูดของพวกเขาได้
5. ข้อเสนอแนะหลังการซื้อ (Post-Purchase Feedback)
การขอความคิดเห็นจากผู้ใช้เป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ ความคิดเห็นของผู้ใช้จะทำให้แน่ใจว่าคุณกำลังสร้างสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หากเป็นไปในทางบวกนั่นแสดงว่าคุณประสบความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า หากเป็นไปในทางลบนั่นแสดงว่าคุณยังมีพื้นที่ในการปรับปรุงสินค้าและบริการ
6. การมีส่วนร่วมในโซเชียลมีเดีย (Social Media Engagement)
คุณอาจจะขอให้ลูกค้าติดตามคุณหรือกดไลค์เพจของคุณ โดยเฉพาะบน Facebook การกระทำที่เป็นเพียงการ “ชอบ” เพจของคุณ ทำให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลประชากรที่จำเป็นจากผู้ติดตาม เช่น เพศ กลุ่มอายุ จังหวัดที่อาศัยอยู่ ภาษาพูด ฯลฯ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือการสำรวจความคิดเห็นที่สร้างขึ้นในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม คุณสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อขอความคิดเห็นและประเมินความต้องการของลูกค้า (เช่นบรรจุภัณฑ์ของสินค้า ส่วนผสมของสินค้า ฯลฯ ) ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการโต้ตอบกับลูกค้าและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขา
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาต่อยอดทางการตลาด เบิร์ธโน๊ตก็มีฟีเจอร์เด็ด ๆ ที่สามารถช่วยเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้ด้วยการสแกน QR Code ค่ะ การมีข้อมูลลูกค้าอยู่ในมือสามารถช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและติดปีกผลกำไรให้ธุรกิจคุณ ลองใช้ QR Code ของเบิร์ธโน๊ตสิคะ รับรองว่าจะติดใจ
หากสนใจ QR Code ของเบิร์ธโน๊ต เพื่อเพิ่มกำไรแบบปัง ๆ ให้ธุรกิจของคุณ ลองโทรมาพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้นะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 099-564-5947, 096-142-9547 หรืออีเมล [email protected] เพื่อให้เราติดต่อกลับ