ข้อเสียเปรียบต่อธุรกิจของการมีสินค้าลอกเลียนแบบในท้องตลาด
สินค้าลอกเลียนแบบได้กลายเป็นประเด็นที่แพร่หลายในแวดวงธุรกิจในปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับการแพร่ขยายของสินค้าลอกเลียนแบบ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจถึงผลเสียที่ตามมา
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงผลเสียของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบและเน้นย้ำว่าทำไมธุรกิจต่างๆ ควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการให้ความกระจ่างเกี่ยวกับข้อเสียของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ โดยเรามีเป้าหมายที่จะสร้างความตระหนักรู้และช่วยให้บริษัทต่างๆ ตัดสินใจอย่างรอบรู้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของแบรนด์ รายได้ และความเชื่อถือของผู้บริโภค
1. สินค้าปลอมเป็นบ่อนทำลายชื่อเสียงของแบรนด์
ข้อเสียที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบคือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชื่อเสียงของแบรนด์ โดยสินค้าลอกเลียนแบบมักจะมีคุณภาพต่ำกว่าและขาดความถูกต้องและความน่าเชื่อถือที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของแท้ เมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว พวกเขาอาจได้รับประสบการณ์เชิงลบ ซึ่งนำไปสู่การรับรู้แบรนด์ที่เสื่อมเสีย ซึ่งความเชื่อมโยงของสินค้าคุณภาพต่ำและความไม่พอใจต่อสินค้าลอกเลียนแบบสามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านการบอกต่อปากต่อปากและคำวิจารณ์เชิงลบในช่องทางออนไลน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์และความสำเร็จในระยะยาว
2. การสูญเสียรายได้
สินค้าลอกเลียนแบบไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ แต่ยังส่งผลให้เกิดการสูญเสียทางการเงินและรายได้ที่ลดลง ธุรกิจต่างๆ ลงทุนทรัพยากรจำนวนมากในการวิจัยและพัฒนา การตลาด และการผลิตเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ในทางตรงกันข้าม นักลอกเลียนแบบใช้ประโยชน์จากการลงทุนเหล่านี้โดยการผลิตสินค้าปลอมราคาถูกและขายในราคาเพียงเศษเสี้ยวของราคาเดิม ซึ่งสินค้าปลอมที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ได้กินส่วนแบ่งทางการตลาดจากเจ้าของแบรนด์สินค้าตัวจริง ทำให้รายได้ลดลง และนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางการเงิน นวัตกรรมที่ลดลง และการลดตำแหน่งงานที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
3. ความไม่ปลอดภัยของผู้บริโภค
สินค้าลอกเลียนแบบก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้บริโภค เนื่องจากผู้ปลอมแปลงไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับด้านมาตรฐานและคุณภาพ ทำให้สินค้าลอกเลียนแบบไม่เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เวชภัณฑ์ และชิ้นส่วนยานยนต์ปลอม อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อผู้ใช้ นำไปสู่อุบัติเหตุ ภาวะแทรกซ้อนด้านสุขภาพ และแม้กระทั่งการสูญเสียชีวิต การปกป้องผู้บริโภคจากอันตรายดังกล่าวควรมีความสำคัญสูงสุดสำหรับธุรกิจและหน่วยงานที่กำกับดูแล
4. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง
สินค้าลอกเลียนแบบทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญสำหรับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าลอกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว อาจจะทำให้รู้สึกว่าถูกหลอกและไม่มีความจริงใจ การสูญเสียความไว้วางใจนี้อาจส่งผลระยะยาว โดยลูกค้าจะลังเลที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบในอนาคต การสร้างความไว้วางใจอาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก ซึ่งประสบการณ์ด้านลบเพียงครั้งเดียวกับสินค้าลอกเลียนแบบอาจจะทำลายความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าไปได้อย่างง่ายดาย
5. ประเด็นทางด้านกฏหมายแและทรัพย์สินทางปัญญา
การมีส่วนร่วมในการผลิตหรือขายสินค้าลอกเลียนแบบนั้นเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาและการละเมิดเครื่องหมายการค้าที่จัดตั้งขึ้น ธุรกิจต่างๆ ลงทุนเวลาและทรัพยากรจำนวนมากในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร ซึ่งสินค้าลอกเลียนแบบไม่เพียงแต่บั่นทอนการลงทุนเหล่านี้ แต่ยังนำไปสู่ผลกระทบทางกฎหมายสำหรับทั้งผู้ลอกเลียนแบบและธุรกิจที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยคดีความ การต่อสู้ทางกฎหมาย และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นอาจทำให้ทรัพยากรทางการเงินของบริษัทหมดไปและทำให้เสียสมาธิจากการดำเนินงานหลักของบริษัทอีกด้วย
6. ผลกระทบด้านลบทางเศรษฐกิจ
การแพร่หลายของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบสร้างผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก การปลอมแปลงเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเป็นการยับยั้งนวัตกรรม การสร้างงาน และการแข่งขันที่เป็นธรรม เมื่อสินค้ากำลังล้นตลาดด้วยของเลียนแบบราคาถูก ธุรกิจที่ถูกกฎหมายก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด นำไปสู่การว่างงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง นอกจากนี้ รายได้ที่สูญเสียไปเนื่องจากการปลอมแปลงทำให้รัฐบาลขาดรายได้จากภาษีที่สามารถนำไปใช้ในการให้บริการสาธารณะและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
โดยสรุปแล้ว ผลเสียของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบในธุรกิจปัจจุบันนั้นไม่สามารถที่จะปล่อยปะละเลยไปได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงของแบรนด์ที่ถูกทำลายไปจนถึงการสูญเสียทางด้่านรายได้ การละเลยต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค การทำลายความไว้วางใจ และการท้าทายทางกฎหมายและจริยธรรม ซึ่งมีผลกระทบที่ตามมาอย่างกว้างขวาง
ธุรกิจต้องมีความพยายามในการต่อสู้กับการปลอมแปลงและการมีส่วนร่วมในมาตรการเชิงรุก เช่น การใช้การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ การสร้างความตระหนักรู้ในหมู่ผู้บริโภค และการร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย การทำเช่นนั้น ธุรกิจสามารถปกป้องความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รายได้ที่ควรจะได้ และความไว้วางใจของผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็มีส่วนสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้น
ปกป้องแบรนด์สินค้าที่ท่านรัก ด้วย QR Code กันปลอม ของเบิร์ธโน๊ต ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสินค้าแท้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นการติดสติ๊กเกอร์ QR Code หรือ พิมพ์ QR Code บนฉลากสินค้าโดยตรง ซึ่ง QR Code กันปลอม ของเบิร์ธโน๊ต เป็น Unique QR Code ที่ไม่ซ้ำกันสักดวง QR Code แต่ละตัวจะถูกเข้ารหัสแบบดิจิทัล ทำให้เมื่อมีการสแกนในครั้งแรกจะมีการบันทึกไว้ในระบบว่ามีการสแกนมาแล้ว เมื่อมีการสแกนครั้งที่ 2 ก็จะมีการแจ้งเตือนว่า QR Code นี้เคยถูกสแกนไปแล้ว
ระบบ QR Code กันปลอม และตรวจสอบสินค้าของแท้ของเบิร์ธโน๊ตนั้นใช้งานง่ายดายมาก เราสามารถสร้างสติ๊กเกอร์ QR Code กันปลอมที่ไม่เหมือนกันเลยสักชิ้นเพื่อให้คุณนำไปติดบนสินค้า ลูกค้าสามารถตรวจสอบโดยการสแกน QR Code ว่าสินค้าชิ้นนั้นใช่ของแท้หรือไม่
ผู้ซื้อสินค้าก็สามารถมั่นใจเลยว่าสินค้าที่ซื้อไปนั้นเป็นสินค้าของแท้ที่มาจากเจ้าของแบรนด์โดยตรง เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนแล้วเปิดแอพพลิเคชั่นที่สามารถสแกน QR Code ได้ เช่น Line, Wechat, แอพ Camera เป็นต้น
วิธีการที่จะนำ ระบบ QR Code ป้องกันสินค้าปลอม เพื่อช่วยตรวจสอบสินค้าของแท้ มาใช้งานมีผลดีดังนี้
1. ลูกค้าใช้งานง่าย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน
เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชันสแกน QR Code เช่น Line, Wechat, แอพ Camera นำมาสแกนแล้วรอการประมวลผลก็สามารถที่จะเห็นผลการตรวจสอบสินค้าของแท้ได้ทันที
2. ป้องกันการทำซ้ำ
หาก QR Code ชิ้นใดมีการสแกนไปแล้วและถูกนำกลับมาสแกนอีกครั้ง ระบบ QR Code กันปลอมและตรวจสอบสินค้าของแท้ จะเก็บข้อมูลและแจ้งให้แบรนด์ทราบทันที ระบบสามารถบอกได้อีกด้วยว่า การสแกนแต่ละครั้งนั้นเกิดขึ้นที่ใด คุณจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะไม่ถูกทำซ้ำ หรือหากถูกทำซ้ำจริงก็สามารถติดตามแหล่งที่มาการทำซ้ำนั้นได้
3. ส่งเสริมการขายไปพร้อมๆ กับการตรวจสอบสินค้าของแท้
คุณสามารถจัดโปรโมชันให้ลูกค้า เช่น เพื่อสะสมแต้มเพื่อการแลกของรางวัลหรือชิงคูปองได้ด้วย ซึ่งหากเป็น QR Code ของปลอมลูกค้าจะไม่สามารถที่จะสะสมแต้มได้ นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถที่จะเรียกยอดขายจะผู้ซื้อและให้ผู้ซื้อใส่ใจในการเลือกซื้อของแท้ไปใช้งาน อย่างเช่น แบรนด์หมึกพิมพ์ยักษ์ใหญ่ยี่ห้อหนึ่ง ที่จัดแคมเปญการสะสมแต้มจากการที่ผู้ใช้เลือกซื้อสินค้าของแท้จากตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น ทั้งด้วยการรับประกันสินค้าหากมีการลงทะเบียนและรับแต้มสะสมในการแลกของรางวัลต่าง ๆ เป็นคุณเองก็คงเลือกที่จะใช้สินค้าของแท้เพราะไหน ๆ ก็เสียเงินซื้อไปแล้วก็คงต้องขอแลกของรางวัลกลับคืนมาบ้าง ดีกว่าซื้อของปลอมแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย เผลอ ๆ ของปลอมดันเป็นต้นเหตุให้เครื่องพิมพ์ของคุณเสียหายได้อีก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ของลอกเลียนแบบขายได้น้อยลง
4. มีระบบหลังบ้านเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า และระบบรายงานอัจฉริยะเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
เรามีระบบหลังบ้านเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า และระบบอัจฉริยะสำหรับเอาไว้เคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ได้สแกนสติ๊กเกอร์คิวอาร์โค้ด ระบบนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ เพราะเจ้าของแบรนด์สามารถนำข้อมูลจากระบบไปใช้วิเคราะห์ วางแผนเพื่อหากลุ่มเป้าหมายใหม่ และดูแลรักษาฐานลูกค้าเก่า หรือจะนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้สำหรับการวางแผนการตลาด เพื่อช่วยลดค่าโฆษณา และเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน
เรามีระบบหลังบ้านเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า และระบบอัจฉริยะสำหรับเอาไว้เคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ได้สแกนสติ๊กเกอร์คิวอาร์โค้ด ระบบนี้ถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ เพราะเจ้าของแบรนด์สามารถนำข้อมูลจากระบบไปใช้วิเคราะห์ วางแผนเพื่อหากลุ่มเป้าหมายใหม่ และดูแลรักษาฐานลูกค้าเก่า หรือจะนำข้อมูลต่าง ๆ ไปใช้สำหรับการวางแผนการตลาด เพื่อช่วยลดค่าโฆษณา และเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน
หากท่านสนใจ ระบบ QR Code ป้องกันสินค้าปลอม หรือตรวจสอบสินค้าปลอม จากเบิร์ธโน๊ตสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 099-564-5947, 096-142-9547 หรือส่งอีเมลที่ [email protected] เพื่อให้เราติดต่อกลับ